วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตำนานขนมครก


ไอ้กะทิ หนุ่มน้อยคนรักของหนูแป้งอ้กะทิ หนุ่มน้อยแห่งดงมะพร้าวเตี้ย แอบมีความรักกับ หนูแป้ง หนูแป้งสาวงามแห่งหมู่บ้านทุ่งมะพร้าวเตี้ยสาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งเป็น ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เจอกันวันลอยกระทง และสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่าข้างหน้าแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอยึดมั่นความรักแท้ที่มีต่อกันชั่วฟ้าดินสลาย

ไอ้กะทิ ก้มหน้าก้มตาเก็บหอมรอมริบหาเงินเพื่อมาสู่ขอลูกสาวจากผู้ใหญ่บ้านฮะฮ่า..ข้านี่แหละผู้ใหญ่บ้านทุ่งมะพร้าวเตี้ย.. แต่กลับถูกปฏิเสธแถมยังโดนผู้ใหญ่ส่งชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือมาลอบทำร้าย แต่ไอ้กะทิก็ไม่ว่ากระไร มันพาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน นอนหยอดน้ำข้าวต้มซะหลายวัน แต่ใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาสู่ขอหนู แป้งใหม่จนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน

แต่แล้วความฝันของไอ้กะทิ ก็พังพินาศเมื่อผู้ใหญ่ยก หนูแป้ง ลูกสาวคนสวยให้แต่งงานกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ไอ้กะทิ รู้ข่าวจึงรีบกระเสือกกระสนหมายจะมายับยั้งการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็วางแผนป้องกันไว้แล้ว โดยขุดหลุมพรางดักรอไว้ แต่แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้ายเสียก่อน จึงลอบหนีออกมาหมายจะห้ามหนุ่มคนรักไม่ให้ตกหลุมพราง

คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม หนูแป้งวิ่งฝ่าความมืดออกมา เพื่อดักหน้าไอ้กะทิ ไอ้กะทิเห็นหนูแป้งวิ่งมาก็ดีใจทั้งคู่รีบวิ่งเข้าหากัน ฉับพลัน!!...ร่างของหนู แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง ของผู้ใหญ่ฯผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าต่อตาไอ้กะทิ อารามตกใจนายกะทิก็รีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือหนูแป้ง อารามดีใจสมุนชายฉกรรจ์ของผู้ใหญ่บ้านซึ่งแอบซุ่มอยู่ ก็รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไป เพราะคิดว่าในหลุมมีเพียงไอ้กะทิผู้เดียว ...

รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ขุดหลุมเพื่อดูผล งาน แทบไม่เชื่อสายตาเบื้องล่างปรากฏร่างของ ไอ้กะทิตระกองกอดทับร่างหนูแป้งลูกสาวของตน ทั้งสองนอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อรอยยิ้มถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อหน้าศพของลูกสาวว่า..

"พ่อไม่น่าคิดทำลายความรักของลูกเลย"

ตั้งแต่นั้นมาอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบ ทอดกันมาจนเป็นประเพณี ทุกแรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้กะทิ กับ แม่แป้ง ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้ง และกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็นสัญลักษณ์ว่า "จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป" ขนมนี้จึงถูกเรียกขานกันในนาม "ขนมแห่งความรัก" หรือ ขนม คน-รัก-กัน ต่อมาถูกเรียกย่อ ๆ ว่า 'ขนม ค-ร-ก' นั่นเอง

ขนม ค ร  ก จึงเป็นขนมที่คนนิยมกินกันจนทุกวันนี้


ปล.ที่เอาเรื่องนี้มา เพราะ ชอบ+อยากกินขนมครก 55555.

15 ความคิดเห็น:

  1. ว่ะ แป้งสาวสวยประจำหมู่บ้าน เป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน
    (วะวะ) แต่งงานแล้วด้วย *0*

    ว่าแต่ ค-ร-ก = คน-รัก-กัน <<<<คิดได้ไง

    อิอิ

    ตอบลบ
  2. 555 เราก็ไม่รู้กัน เห่ๆ มันเปนตำนาน ไม่ได้เกี่ยวไรก่าเรา นะกาก

    ตอบลบ
  3. รูปโปรไฟล์ยังกะนางเอกหนังอินเดีย 555

    ตอบลบ
  4. หราบ งั้นเดี๋ยวเปลี่ยนๆ ชาด

    ตอบลบ
  5. ไม่ต้องเปลี่ยน

    หนังอินเดียที่มันแอบหลังต้นไม้อ่า 555

    ตอบลบ
  6. เออรู้แหละหน่ายาย เราเคยดู 555

    ตอบลบ
  7. กุจะไปยิงผู้เฒ่าเต่า

    ตอบลบ
  8. น่ารักเหมือนเจ้าของบล็อกเลย อิอิ

    ตอบลบ
  9. 55555555555 เค้าก็อยากกิน

    ตอบลบ
  10. ตำนานนี้หนุกหนานเนอะ

    ตอบลบ
  11. ที่บ้านขายขนมครกเหอ

    ตอบลบ
  12. ที่บ้านเราเรียก "หนุมครก" โด้ อิอิ

    ตอบลบ
  13. แหย๊ เด็กสเปน เมพ เพ 555+

    ตอบลบ